ตำแหน่ง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาฯ เป็นเก้าอี้ร้อนๆ ที่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้งของพระ ซึ่งถ้าวางตัวไม่ดี แบ็กกราวด์ไม่แน่น เหมือนอย่างหมอจักรธรรม ก็ไปง่ายๆ เหมือนกัน

คุณหมอเล่าให้ฟังอย่างขำๆ ตอนหนึ่งว่า สำนักงานนี้ไม่มีความลับ

"พระต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง someway somehow อยู่เสมอ แล้วคนในสำนักงาน สมมติมี ๒๕๐ คน ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกศิษย์พระลูกศิษย์วัด พระเอามาฝากทำงาน เป็นนักการกินเงินเดือนพระ หิ้วย่ามพระ อยู่กันหลายคนหลายกลุ่มมากๆ ทันทีที่เราบอกว่าเราจะร่วมมือกับศูนย์คุณธรรม ข่าวก็ถึงพระแล้ว เพราะลูกศิษย์เยอะ ลูกศิษย์รับไม่ได้เลย หมอก็ดูไม่ออกว่าใครเป็นลูกศิษย์ใคร"

อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไทย แต่หน่วยงานอื่นอาจจะลำบากใจน้อยกว่าสำนักพระพุทธฯ "แม้กระทั่งข้าราชการ เวลาจะเลื่อนตำแหน่งทีก็มีจดหมายน้อยจากพระ มาฝากเหมือนลูกเหมือนหลาน แต่ก็โอเคนะผมว่าตอนนี้พระท่านก็น่าจะเข้าใจเรามากขึ้น"

บอกว่าตามระเบียบราชการตำแหน่งนี้เท่าอธิบดีอยู่ได้ไม่เกิน ๔ ปี "ตอนอาจารย์วิษณุมาบอกหมอไปอยู่สักพักนะ ไปช่วยผมนะ อาจารย์ครับผมอยู่ได้ครับ ผมชอบงานนี้ครับ ๓-๔ ปีผมอยู่สบายเลย ท่านบอกเฮ้ยหมอไม่ต้องๆ ๒ ปีก็พอแล้ว (หัวเราะ) นี่ ๖ เดือนยังทำท่าร่อแร่ๆ"

แต่ก็ยังมั่นใจว่าตัวเองจะอยู่ได้ถึง ๒ ปี

"แต่ ๖ เดือนที่ผ่านมาเรียนตรงๆ ว่าเหนื่อยมาก คือไม่มีวันหยุด พระเชิญเราไปที่โน่นที่นี่เยอะ แล้วเราก็ขาดเรื่องครอบครัว แต่เหนื่อยอย่างเดียวไม่เป็นไร ถ้าถูกด่าแล้วผู้ใหญ่เกิดเชื่อมาเมื่อไหร่นะ ตอนนี้ผู้ใหญ่ท่านไม่เชื่อ ท่านให้กำลังใจเรา แต่ถ้าวันหนึ่งท่านเกิดเชื่อขึ้นมา เกิด question เราขึ้นมา มันก็เหนื่อยใจ"

"แต่พระผู้ใหญ่ก็ให้กำลังใจมากโดยเฉพาะสมเด็จพระมหาธีราจารย์ พระพรหมวชิรญาณ แต่สมเด็จเกี่ยวท่านอาจจะไม่ได้รักผมเท่าสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เพราะท่านอาจจะนึกว่าเราไปใกล้ชิดกับหลวงตาบัว แล้วหลวงตาบัวมาด่าท่าน แล้วท่านตั้งคุณอุดมเป็นที่ปรึกษาแต่เราไม่ได้จัดห้องให้คุณอุดม อะไรอย่างนี้ แต่ต้องเห็นใจผมบ้างเหมือนกัน ผอ.เก่าเกษียณแต่จะจะมีห้องทำงานนั่งอยู่ในนี้ หรือว่าตั้งที่ปรึกษาไว้ให้ผมโดยที่ผมไม่รู้จักเลย อย่างนี้เกินไปมั้ง มันไม่ยุติธรรม"

ข้อกล่าวหาที่เขาโดน ฟังแล้วก็เป็นเรื่องเลื่อนลอย ไร้เหตุผล สำหรับคุณหมอ ซึ่งนอกจากเป็นทายาทอาจารย์สัญญาแล้ว ยังเป็นหนึ่งในแกนนำแพทย์รุ่นใหม่เปิดโปงการทุจริตในกระทรวงสาธารณสุขมาหลาย ครั้ง

"รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้เราจัดตั้งศูนย์ข้อมูลด้านพระศาสนา เช่น จำนวนพระ พระที่สึกแล้วชื่ออะไรบ้าง ไม่ให้มาบวชซ้ำ ก็ให้เงินมาพอสมควร ผมประชุมกับอาจารย์ที่ปรึกษาของจุฬา เมื่อวันก่อนนี้เอง ยังไม่ได้จัดซื้อจัดจ้าง ไม่ได้กำหนดสเปกอะไรเลย เขาเห็นว่าเงินมันเยอะก็ยกมาพูดว่ามีการทุจริต"

"เรื่องสึนามิหมอเป็นคนหาเงินบริจาค ก็ขอพระนี่แหละ ได้มา ๒ ล้าน แล้วมีญาติโยมมาบริจาคอีกทีละ ๔-๕ หมื่น เราก็ตั้งกองทุนไว้เพื่อจะเอามาช่วยเหยื่อสึนามิ โดยเฉพาะที่เป็นวัดกับพระ แล้วพระท่านอาจจะเอาไปช่วยชาวบ้านด้วยก็ไม่ได้ว่าอะไร เราตั้งกองทุนไว้ใครเอาเงินมาให้เราก็ออกใบเสร็จ เราเองไม่มีอำนาจถอนเงิน ให้รองผู้อำนวยการเป็นผู้มีอำนาจ พอพระท่านตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อจะมาดูแลเรื่องสึนามิเราก็เอาเงิน นี้เข้ากับพระ ให้พระเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารร่วมกับเรา ก็แค่นี้ และตอนนี้ก็มีเงินอยู่ประมาณ ๔-๕ ล้าน เราไม่ได้จับเงินเลย เราจะไปโกงเงินนี้ได้ยังไงผมก็ไม่เข้าใจ"

"คือขอให้ได้พูดเถอะ เขาคิดว่ามันจะติดลมถ้าหาว่าทุจริต แต่มันเป็นข้อกล่าวหาที่เขาไม่รู้ว่ามัน hurt ผมมาก เพราะเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตมันเป็นสายเลือดอยู่ในจิตวิญญาณ เรายอมเสียตำแหน่งแต่ไม่ยอมโกง ถ้ามีคนจะสั่งให้เราโกงนะ เรายอมเสียตำแหน่ง อยู่กระทรวงสาธารณสุขเราโดนมาแล้ว เราถูกย้ายกระเด็นหายไปเมื่อเราออกมาด่ารัฐมนตรี อันนี้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายสำหรับผม เขามาหาว่าผมโกงมันรับไม่ได้จริงๆ ก็กำลังดูอยู่อาจจะต้องทำเป็นตัวอย่าง ถ้านักกฎหมายมองแล้วว่าทำให้ผมเสียหายก็ฟ้อง"

ไทยโพสต์ แทบลอยด์ ๒๔ เมษายน ๒๕๔๘ กองบรรณาธิการ